กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 กองบัญชาการตำรวจนครบาล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., ............รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. มอบนโยบายมุ่งเน้นการควบคุมและจัดระเบียบสถานบริการต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาทางสังคม เช่น การแพร่ระบาดของยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในสถานบริการเหล่านั้น การควบคุม และแก้ไขปัญหาการขอทาน การค้ามนุษย์ โดยมีทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การคุ้มครองผู้ทำการขอทาน มุ่งเน้นการลด จำนวนผู้ทำการขอทาน และสร้างสังคมที่น่าอยู่ ปราศจากการขอทาน และส่งเสริมการสร้างสังคมให้สงบสุขและ ปลอดภัย โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของกองบัญชาการต ารวจนครบาล มีพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ....................... รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการต ารวจนครบาล โดย พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล , พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองค า รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์,พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม ,พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ต.ณัฐดนัย บ ารุงศรีสว.งานสายตรวจ ๒ กก.สายตรวจ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนหาข่าว งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. สืบสวนหาข่าวจนกระทั้งทราบถึงข้อมูลสถานบริการที่ ลักลอบเปิดให้บริการและจำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด
“ 191 ควบคุมและแก้ไขปัญหาการขอทาน ” วันที่จับกุม 8 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 21.00 น. จับกุมผู้ต้องหา จ านวน 2 ราย 2 คน 1. นายสมเจตน์(สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 20 บาท 2. นายไกรวัฒน์(สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 15 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการอันเป็นการขอทาน” ตาม พรบ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559” สถานที่ตรวจค้น/จับกุม บริเวณริมถนนใกล้ปากซอยสุขุทวิท 1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายการควบคุมและแก้ไขปัญหาการขอทาน การค้ามนุษย์ โดยมีทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การคุ้มครองผู้ทำการขอทาน มุ่งเน้นการลดจำนวนผู้ทำการขอทาน และสร้างสังคมที่ น่าอยู่ ปราศจากการขอทาน และส่งเสริมการสร้างสังคมให้สงบสุขและปลอดภัย โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่าง เคร่งครัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าว งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงออกตรวจสอบตามแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และคาดว่าเป็นสถานที่ที่มีคนมาขอทาน จนกระทั้งมาถึงบริเวณริมถนนใกล้ปาก ซอยสุขุทวิท 1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พบนายสมเจตน์(สงวนนามสกุล) และนายไกรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) กำลังนั่งขอเงินจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุม พร้อมทั้งนำตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป PRESS RELEASE
“ 191 จับชาวต่างชาติผิวสีลักลอบจ าหน่ายโคเคนย่านสุขุมวิท ” วันที่จับกุม 9 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 15.40 น. จับกุมผู้ต้องหา จ านวน 1 ราย 1 คน Mr.VITALIS อายุ 32 ปี สัญชาติไนจีเรีย พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคคาอีน) น าหนักประมาณ 2.29 กรัม 2. ธนบัตรไทย(เงินล่อซื้อ) จำนวน 6,000 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยผิดกฎหมาย, มีไว้ในความครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคคาอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน” สถานที่ตรวจค้น/จับกุม บริเวณหน้าร้าน SUNRISE BISTRO ปาก ซ.สุขุมวิท 7/1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ต ารวจชุดสืบสวนหาข่าว งานสายสายตรวจ ๒ กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจาก สายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีมีพฤติการณ์ลักลอบจ าหน่ายยาเสพติด(โคคาอีน) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มา ท่องเที่ยวที่บริเวณย่านซอยสุขุมวิท 3 – 9 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ในราคากรัม ละ 3,000 บาท และสายลับสามารถติดต่อซื อยาเสพติด (โคคาอีน) ได้จากชายชาวต่างชาติผิวด าที่ลักลอบจ าหน่ายยา เสพติด (โคคาอีน) ที่บริเวณย่านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต ารวจได้ให้สายลับปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวและเข้าไปติดต่อล่อ ซื อยาเสพติดจากชายชาวต่างชาติผิวสีโดยมีเจ้าเจ้าหน้าที่ต ารวจวางก าลังเฝ้า
สังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ จนกระ ทั งพบ Mr.VITALIS สัญชาติไนจีเรีย(ผู้ต้องหา) เสนอขายยาเสพติดให้กับสายลับ สายลับจึงตกลงซื อขายยาเสพติดกับ ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ต ารวจจึงเข้าแสดงตัวจับกุม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่าลักลอบจ าหน่ายยาเสพติดที่ บริเวณย่านสุขุมวิทเป็นประจ า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป วันที่จับกุม 17 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 22.10 น. จับกุมผู้ต้องหา จ านวน 1 ราย 1 คน Mr.CHUKWUDI อายุ 35 ปี สัญชาติไนจีเรีย พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคคาอีน) น าหนักประมาณ 10 กรัม 2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง 3. ธนบัตรไทย(เงินล่อซื้อ) จำนวน 30,000 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยผิดกฎหมาย, มีไว้ในความครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคคาอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน” สถานที่ตรวจค้น/จับกุม บริเวณหน้าร้าน THAI CANNABIS CLUB ใกล้ปาก ซ.สุขุมวิท 7/1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ต ารวจชุดสืบสวนหาข่าว งานสายสายตรวจ ๒ กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจาก สายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีมีพฤติการณ์ลักลอบจ าหน่ายยาเสพติด(โคคาอีน) ผ่านทางแอปพลิเคชัน Whatsapp โดยจำหน่ายเป็นแท่ง แท่งละ 10 กรัม ในราคา 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อ
โดย Mr.CHUKWUDI(ผู้ต้องหา) นัดส่งมอบยาเสพติดกันที่บริเวณ ซ.สุขุมวิท ๕ ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันประชุมวางแผนจับกุม จนกระทั งเวลาประมาณ 22.00 น. ผู้ต้องหาขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน จต 2878 ชลบุรีมาส่งมอบยาเสพติดให้กับ สายลับ จากนั นเจ้าหน้าที่ต ารวจจึงเข้าแสดงตัวจับกุมที่บริเวณหน้าร้าน THAI CANNABIS CLUB ใกล้ปาก ซ.สุขุมวิท 7/1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่าลักลอบจ าหน่ายยาเสพ ติดจริง และจะน ายาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ 191 บุกตรวจค้นร้านคาราโอเกะอาหารอีสานพบฉี่ม่วงอื้อ ” วันที่จับกุม 19 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 03.15 น. จับกุมผู้ต้องหา จ านวน 1 ราย 1 คน นายเส(สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1. ใบเสร็จรับเงินในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระบุวันที่ 19 ก.ค. 67 จำนวน 3 ใบ 2. บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ ง จำนวน 194 ชิ้น 3. น้ำยาบารากุ จำนวน 3 กล่อง 4. อุปกรณ์การเสพบารากุ จำนวน 3 ชุด 5. แม็กกาซีนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 แม็ก 6. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 22 นัด 7. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .32 จำนวน 11 นัด 8. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 7 นัด โดยแจ้งข้อกล่าวหา “เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมาย กำหนด, ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือ บุหรี่ไฟฟ้า, ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของ อันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต” สถานที่ตรวจค้น/จับกุม บริเวณร้านอีสานภายใน ซ.ลาดพร้าว 87 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของลูกค้าและพนักงานร้านทั้งหมด รวม 33 ราย แยกเป็นลูกค้า 29 ราย, พนักงาน ร้าน 4 ราย ผลการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะดังนี้ 1. ลูกค้าสัญชาติลาว พบสารเสพติด จำนวน 20 ราย 2. ลูกค้าคนไทย พบสารเสพติด จำนวน 6 ราย 3. ลูกค้าคนไทย จำนวน 3 ราย ไม่พบสารเสพติด 4. พนักงานร้าน จำนวน 4 ราย ไม่พบสารเสพติด **ผู้เสพทั้ง 26 ราย ยอมรับว่าเป็นผู้เสพ และสมัครใจเข้ารับการบ าบัด**
พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าว งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจาก สายลับว่าที่บริเวณภายในซ.ลาดพร้าวง 87 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร มีร้านอาหารอีสาน เปิดให้บริการโดยจัดให้มีการร้านคาราโอเกะ และจัดทำเป็นห้อง VIP ไว้ให้บริการแก่ลูกค้า และเปิดให้บริการแก่ลูกค้า ถึงตอนเช้า โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการนั้นจะเป็นคนสัญชาติลาว จะรู้กันในกลุ่มของคนสัญชาติลาว และ มักจะเข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติดกันภายในร้านจนถึงเช้า ต่อมาวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการภายในร้าน ดังกล่าว จนกระทั้งเวลาประมาณ 03.00 น. พบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในห้อง VIP เป็นจำนวนมากลักษณะ ท่าทางคล้ายผู้เสพยาเสพติด และทางร้านยังให้บริการอยู่ จึงเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบภายใน ร้าน ผลการตรวจค้นมีนายเส(สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปีรับว่าเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งภายในร้านพบบุหรี่ไฟฟ้าและเครื่อง กระสุนปืนนายเส(สงวนนามสกุล) รับว่าบุหรี่ไฟฟ้าเอาไว้ขายให้กับลูกค้า
ส่วนเครื่องกระสุนปืนนั้นเป็นของน้องชายซึ่ง ตนเอามาเก็บไว้ และได้ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของลูกค้าและพนักงานร้านทั้งหมด รวม 33 ราย พบสารเสพ ติดในร่างกายจำนวน 26 ราย ยอมรับว่าเป็นผู้เสพ และสมัครใจเข้ารับการบำบัด ส่วนนายเส(สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระท าความผิด เกี่ยวกับการจ าหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิด กฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษสายด่วน 191, เพจสายตรวจและ ปฏิบัติการพิเศษ ที่มา : กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)
สวส. จัดงาน “Social Enterprise Ecosystem Forum 2025 " รวมพลังวิสาหกิจเพื่อสังคมขับเคลื่อนอนาคตไทยอย่างยั่งยืน
ตัวแทนจากไต้หวัน คว้าตำแหน่งชนะเลิศ การประกวด Mister Cosmopolitan 2025 ภายใต้สโลแกน "สุภาพบุรุษหัวใจพิสุทธิ์"
Taevika Jewelry ร่วมสร้างบรรยากาศหรูหราและอบอุ่น ในงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 72