13 ตุลาคม 2568

ตม. แท็กทีม ป.ป.ส. ปิดเกมส์พ่อค้ายาข้ามชาติผิวสี หนีหมายจับตำรวจสากล ลอบส่งยาเสพติดเกือบ 20 กิโล

image

ตม. แท็กทีม ป.ป.ส. ปิดเกมส์พ่อค้ายาข้ามชาติผิวสี หนีหมายจับตำรวจสากล ลอบส่งยาเสพติดเกือบ 20 กิโล


จำหน่ายในเกาหลีใต้ บุกค้นห้องพบยาเสพติด พ่วงอาวุธปืน 3 กระบอกเครื่องกระสุนครบมือซุกซ่อนทั่วห้อง*

“บิ๊กปู” พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ประกาศชัด สั่งทุกหน่วยในสังกัดเน้นปราบปรามคนต่างด้าวที่กระทำความผิดกฎหมายอาญาในทุกรูปแบบอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะการกระทำความผิดข้ามชาติ ซับซ้อน เป็นรูปแบบองค์กร โดยได้สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ควบคุมอำนวยการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับพฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน รอง ผบก.ตม.๑ ,พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับการประสานความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยการอำนวยการของ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมลเลขาธิการ ป.ป.ส. ,นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายไกรวุฒิ มณีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนประสานการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ เนื่องจากได้ทราบข้อมูลเบาะแสจากการปฏิบัติการข่าว เกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวผิวสี ชื่อนายเอมมานูเอล แอ๊บโบ (Emmanuelle Abbo) นามสมมติ อายุ 40 ปี ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด พักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จากการสืบสวนโดยตรวจสอบในระบบสารสนเทศของ สตม. พบว่า นายเอมมานูเอลฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการสืบสวน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุดด้วย ประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว(๖๐วัน) แต่การอนุญาตสิ้นสุดลงแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากล ในฐานะพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลอบส่งยาเสพติดน้ำหนัก 19 กิโลกรัม ผ่านบริษัทขนส่งไปจำหน่ายในเกาหลีใต้ หลบหนีหมายจับโดยซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครชั้นในมาเป็นเวลากว่า 1 ปี


วันที่ 30 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ, พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 นายอนุสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา ,น.ส.พิชญา มณีนิล ,น.ส.สุธินี เตชาวงศ์ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จึงได้วางแผนสนธิกำลังในการดำเนินการตามกฎหมายกับ นายเอมมานูเอลฯ โดยนำกำลังลงพื้นที่ วางกำลังสังเกตุการรอบโรงแรม จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. จึงพบคนต่างด้าวรูปพรรณสัณฐานตรงกับ นายเอมมานูเอลฯ เดินอยู่ริมถนนเพชรบุรี ห่างจากที่โรงแรมที่พักประมาณ 50 เมตร  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายพร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวให้ดู สอบถามชื่อเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งในเบื้องต้นนั้น นายเอมมานูเอลฯ ซึ่งสามารถพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว รับแต่โดยดีว่าตนเองคือคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับตำรวจสากลดังกล่าวจริง และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยอยู่ในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2559 เจ้าหน้าที่สอบถามว่ายังคงมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธเสียงแข็ง เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงขยายผลเข้าตรวจสอบภายในห้องพักของนายเอมมานูเอลฯ โดยความบริสุทธิ์ใจของนายเอมมานูเอลฯ และได้แจ้งให้ผู้จัดการโรงแรมทราบถึงเหตุแห่งการตรวจค้น เมื่อนายเอมมานูเอลฯ ใช้คีย์การ์ดแตะเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์เสพยาทันทีบริเวณชั้นวางทีวี จึงได้ควบคุมตัวนายเอมมานูเอลฯ  ให้อยู่ในความสงบ และลงมือตรวจค้นโดยละเอียดทีละจุดต่อหน้า นายเอมมานูเอลฯ  และพยานผู้ดูแลโรงแรมผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มีเลขทะเบียนซ่อนอยู่ในซองหนังพกใน พบปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้อง พร้อมชุดลั่นไกมีเข็มแทงชนวน อีก 2 กระบอกพร้อมแม็กกาซีนดัดแปลงสำหรับเครื่องกระสุนขนาด .38 ซ่อนอยู่ในกล่องเครื่องมือ พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม., ขนาด 11 มม. และขนาด .22  นิ้ว รวมเกือบ 80 นัด โดยมีทั้งที่บรรจุในแม็กกาซีนขึ้นลำพร้อมใช้ และซุกซ่อนตามจุดต่างๆในห้องพัก นอกจากนี้ในกระเป๋าและถุงต่างๆที่อยู่ภายในห้องเจ้าหน้าที่ยังพบ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนัก 2 กรัมเศษ ยาอีหรือ ๓,๔ เมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1 ซอง น้ำหนัก 1 กรัม เมทแอมเฟตามีนสีเขียวมิ้นอีกจำนวน 1 เม็ด 


โดย นายเอมมานูเอลฯ ให้การว่า อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ ที่พบไม่ใช่อาวุธปืนของตนเอง เป็นของเพื่อนคนไทยี่ได้มาจำนำไว้กับตน ส่วนยาเสพติดนั้นไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของเพื่อนคนไทยอีกกลุ่มที่เข้ามาใช้ห้องของตนเป็นสถานที่มั่วสุมเสพยา และได้ลืมนำกลับไปด้วย ชุดจับกุมจึงได้พาตัวนายเอมมานูเอลฯ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดโดยละเอียดที่โรงพยาบาลผลการตรวจสอบพบว่าผลเป็นบวก(Positive) พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของผู้ถูกจับ ซึ่งผู้ถูกจับยอมรับว่าตนเคยเสพยาไอซ์จริง แต่ไม่ได้เสพมา 1 วันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)” และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบแล้ว โดย ผู้ถูกจับสามารถรับฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพข่าว

ข่าวล่าสุด

ไทยเจียระไน กรุ๊ปฯ จัดงาน “Thailand Headlines Person of the Year Awards 2025” ฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ไทย–จีน

ไทยเจียระไน กรุ๊ปฯ จัดงาน “Thailand Headlines Person of the Year Awards 2025” ยิ่งใหญ่ ฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ไทย–จีน ตอกย้ำพลัง Soft Power ไทยสู่ระดับโลก

เอ็ม บี เค เชิญชมการแสดงดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในงาน “บทเพลงของพ่อ”

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ขอเชิญร่วมชมการแสดงดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ ร่วมน้อมรำลึก เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ต.ค. 68 โดยวงซิมโฟนีออเคสตรา Bangkok Metropolitan Orchestra พร้อมศิลปินรับเชิญ

ททท. จุดแสงแห่งศรัทธา สว่างไสวรับเทศกาลดีวาลี 2025 กับงาน “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025”

ททท.เตรียมจัดงาน “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” เฉลิมฉลองเทศกาลดีวาลียิ่งใหญ่ 2 พื้นที่ “คลองโอ่งอ่าง-พาหุรัด” 16-31 ตุลาคมนี้